มีอีกหนึ่งสูตรง่ายๆ ที่เป็นเสมืือนกระจกกันกระสุนให้กับคุณเมื่อคุณสร้างกลยุทธ์การทำ SEO
2. สร้างเรื่องราวเกี่ยวกับบทความ ( EPIC content)
3. สร้างลิงค์และสัญญาณโซเชียลมีเดีย
4. ทำซ้ำแบบเดิม
นี่เป็นวิธีการที่ผ่านการทดสอบมาแล้วและทดลองใช้ในทางธุรกิจนับล้านครั้งที่เจ้าของเว็บไซต์และบรรดาบล็อกเกอร์ได้มุ่งไปสู่เป้าหมายและสร้างทราฟฟิกที่มีผลกำไรให้กับเว็บไซต์ของพวกเขา
แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่ง...
การวิเคราะห์คีย์เวิร์ด
คุณต้องสามารถหาข้อมูลของคีย์เวิร์ดที่มีจุดมุ่งหมายซึ่งเป็นการเลือกที่ชาญฉลาดเพื่อจะช่วยปรับปรุงอันดับเว็บไซต์และเพิ่มรายได้ของคุณและคุณจะทำมันได้อย่างไร?
ด้วยเครื่องมือการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด
พวกมันไม่ใช่อาวุธลับที่มีอยู่ในคลังแสงในโลกของ SEO แต่อย่างใด
และวันนี้ ผมจะแสดงให้คุณดูว่าคุณสามารถที่จะใช้พวกมันในการทำ SEO ได้อย่างไร
เครื่องมือวิเคราะห์คืออะไร (และทำไมจึงมีความสำคัญ)?
แพลตฟอร์มเครื่องมือการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดช่วยให้คุณค้นหาและทำการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดสำหรับกลยุทธ์ในการทำ
SEO
ของคุณด้วยการแสดงตัวชี้วัดอย่างเช่น:
ทราฟฟิกการค้นหาแต่ละเดือน
ความยากของคีย์เวิร์ด
คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง
ราคาต่อคลิก (Cost Per Click)
เว็บไซต์ที่ติดอันดับในปัจจุบันสำหรับคีย์เวิร์ด
นี่เป็นข้อมูลขจัดปัญหาตรงจุดและคาดหวังต่อส่วนประกอบของการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด
เพราะมันได้เตรียมข้อมูลที่พร้อมใช้งานให้กับคุณ:
โดยทั่วไปแล้วเครื่องมือฟรีมีเป้าหมายในการแนะนำคีย์เวิร์ด
เครื่องมือวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่เสียเงินมีเป้าหมายช่วยให้คุณมีความเข้าใจและทำให้บรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิผล
โดยการใช้เครื่องมือวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่ดีที่สุดบางเครื่องมือที่ยังใช้งานได้...
ผมสามารถที่จะเพิ่มทราฟฟิกการค้นหาแบบ organic ของผม
บ่อยครั้งที่การใช้คีย์เวิร์ดของผมไม่เคยค้นพบ (หรือไม่เข้าใจความหมายและคุณค่าของมัน) ปราศจากพวกมัน ผมไม่สามารถให้คุณค่าของการใช้เครื่องมือคีย์เวิร์ดได้เพียงพอ...
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณจริงจังเกี่ยวกับเพิ่มทราฟฟิกให้กับเว็บไซต์ของคุณ
ไปเริ่มต้นใช้เครื่องมือวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่ดีที่สุดกันเลยครับ
4 ชนิดเครื่องมือวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่ดีที่สุดในปี 2020
มีเครื่องมือวิเคราะห์คีย์เวิร์ดอยู่ 4 ชนิดที่ผมอยากแนะนำ
พวกมันขึ้นอยู่กับคุณว่าใช้อย่างไรและมีเป้าหมายการทำ SEO
ของคุณเป็นอย่างไรและงบประมาณของคุณด้วย
แต่ในแต่ละเครื่องมือเหล่านี้สามารถที่จะช่วยคุณสร้างกลยุทธ์การวิเคราะห์คีย์เวิร์ดได้อย่างหลากหลายเต็มรูปแบบ
- SEMRush: เป็นเครื่องมือ SEO
แบบ All-in-one ที่ใช้งานได้ง่าย ราคาเริ่มต้นที่ $99 ต่อเดือน
- Ahrefs: อาจจะเป็นเครื่องมือการสร้างลิงค์ที่ดีที่สุดในตลาดขณะนี้
มันสามารถใช้วิเคราะห์คีย์เวิร์ดได้ดี ราคาเริ่มต้นที่ $99 ต่อเดือน
- Long Tail Pro: เป็นเครื่องมือระดับมืออาชีพที่ใช้ในการแข่งขันได้เป็นอย่างดีและทำการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดอย่างเดียวเท่านั้น
ราคาเริ่มต้นที่ $25 ต่อเดือน
- ฟรี! แทมเพลตการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด: สร้างกลยุทธ์การใช้คีย์เวิร์ดที่สมบูรณ์แบบภายในเวลาน้อยกว่า 10 นาทีด้วย Free
sheet ที่ผมแนะนำ
ให้คุณดูที่คุณลักษณะเฉพาะของแต่ละเครื่องมือการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดเหล่านี้
และมันก็จะช่วยคุณค้นหาคีย์เวิร์ดที่ถูกต้องเหมาะสมสำหรับคุณ
SEMRush: วิธีการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด
SEMRush เป็นเครื่องมือการทำ SEO อยู่ในระดับแถวหน้ามาหลายปีแล้ว...
มีหลายเวอร์ชั่นซอฟต์แวร์ของพวกเขาที่ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม
ใช้ Keyword Magic Tool
ของพวกเขาเพื่อค้นหาโหลดในเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วและจากนั้นคุณสามารถค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องได้ในทันทีและตรวจสอบช่องว่างคีย์เวิร์ดบนเว็บไซต์ของคุณได้อีกด้วย
เครื่องมือการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดของพวกเขาเป็นคู่แข่งขันกับ Ahrefs!
เครื่องมือมีหน้าตาการใช้งานที่ง่ายและสะดวกในการใช้เครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่ในรายการ
นี่เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการใช้ SEMRush
ในการค้นหาคีย์เวิร์ดที่ถูกต้องสำหรับธุรกิจของคุณ -
ขั้นตอนที่ #1: ใช้งานเครื่องมือ Keyword Magic
Keyword Magic Tool เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม SEMRush
จากเครื่องมือทั้งหมด
มันเป็นเครื่องมือที่เฉพาะที่สามารถลดเวลาของคุณที่ใช้ในการค้นหาคีย์เวิร์ดและเพิ่มข้อมูลที่คุณจะต้องใช้ในการทำงาน
ไปดูกันว่าคุณกำลังมองหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสำหรับเว็บไซต์การท่องเที่ยว
ให้ใส่คียเวิร์ดเป้าหมายสักหนึ่งคีย์เวิร์ด - เช่น "travel guides"...
คุณสามารถสร้างหน้าเว็บเพจด้วยคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องได้นับพันคีย์เวิร์ดและด้วยตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องของพวกเขา
อะไรที่ทำให้ผมชอบคุณสมบัตินี้คือมันทำให้คุณได้เห็นคีย์เวิร์ดที่แตกต่างกันในหลายๆ
มุมมอง
คุณสามารถพิจารณาเติมคำก่อนหรือเติมคำหลังคีย์เวิร์ดที่ทำให้คุณสามารถได้รับทราฟฟิกเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
อย่างเช่นผลของคีย์เวิร์ดที่ลงท้ายด้วยคำว่า "pdf"
คีย์เวิร์ดเหล่านี้ง่ายที่จะนำออกมาเป็นไฟล์ .CSV
ได้ทั้งหมดและคุณสามารถนำออกมาได้เป็นล้านๆ คีย์เวิร์ดภายในครั้งเดียว
มันไม่เลวเลยสำหรับหนึ่งคีย์เวิร์ดและการคลิกสองครั้งก็ได้แล้ว ใช่ไหมครับ?
ขั้นตอนที่ #2 ค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องได้โดยทันที
SEMRush มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการช่วยคุณค้นหาคีย์เวิร์ดแบบยาวๆ ที่ซ่อนอยู่
ด้วยการใส่ข้อมูลเพียงเล็กน้อยคุณก็สามารถที่จะหาข้อมูลคีย์เวิร์ดเป็นร้อยๆ คำ เพียงแค่ใส่คีย์เวิร์ดเป้าหมายของคุณลงไปในเครื่องมือ Keyword Overview
ของพวกเขา...
คุณก็จะได้รับข้อมูลจำนวนมหาศาล
มีความสำคัญอย่างมากคุณได้รับรูปแบบคีย์เวิร์ดหลัก (Keyword Variations)และคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง (Related Keywords):
เหมือนที่คุณเห็นในการค้นหานี้...
มันให้ข้อมูลคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องเกือบ 1,500
คำสำหรับคีย์เวิร์ดเป้าหมายของผม "travel guides"
แต่ในตอนนี้เราสนใจแค่เพียง related keywords
ในรายงานแบบเต็มคุณสามารถเห็น live update ข้อมูล - sheet
ของคีย์เวิร์ดแบบยาวและตัวชี้วัด
ในตัวอย่างนี้มีมากกว่า 209 คีย์เวิร์ดที่ควรนำมาใช้ได้และใช้ในแต่ละบทความของคุณหรือว่านำไปใช้ทั่วทั้งเว็บไซต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวของคุณได้
ขั้นตอนที่ #3 หาช่องว่างของคีย์เวิร์ดในเว็บไซต์ของคุณ
ช่องว่างคีย์เวิร์ดเป็นคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งขันของคุณกำลังทำอันดับอยู่แต่คุณไม่ได้ทำ
คีย์เวิร์ดเหล่านี้มีเป็นส่วนใหญ่ที่คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอยู่จริง!
SEMRush มีเครื่องมือที่เรียกว่า "Domain vs. Domain"
ที่สามารถช่วยคุณเปิดเผยคีย์เวิร์ดเหล่านี้
ผมเพียงแค่ใส่ชื่อโดเมนของผมและจากนั้นก็ใส่ชื่อโดเมนเนมของคู่แข่งอีก 2 โดเมน
SEMRush จะทำการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดทั้งหมดที่มีอยู่ใน 3 โดเมนนี้
มันทำการค้นหาว่ามีอะไรบ้างที่มี (และไม่มี) โดยทั่วไปและแสดงผลให้คุณดูเป็น
Venn Diagram แบบนี้:
ตำแหน่งที่มีการทับซ้อนเป็นคีย์เวิร์ดที่คุณมีทั่วไปเหมือนกันในเว็บไซต์เหล่านี้
และตำแหน่งทั้งหมดที่ไม่มีการทับซ้อนกันเป็นคีย์เวิร์ดที่ไม่มีอยู่ในเว็บไซต์ของคุณและควรใช้ในการใช้เพิ่มทราฟฟิก
คุณสามารถที่จะแก้ไขรายการแสดงผลนี้เป็นตารางการแสดงผลเพื่อดูคีย์เวิร์ดที่ถูกต้องของโดเมนเหล่านี้ที่มีอันดับอยู่
ที่อนุญาตให้คุณเจาะลึกลงไปในตัวชี้วัดและข้อมูลของพวกเขา:
คุณจำเป็นต้องกลั่นกรองบางอย่างด้วยวิธีการนี้เพราะว่าจะมีคีย์เวิร์ดที่เป็นเหมือนแบรนด์คีย์เวิร์ด
ที่อาจจะไม่เหมาะกับเว็บไซต์ของคุณ
แต่คุณจะหาคีย์เวิร์ดที่ผ่านการทดสอบมาเป็นจำนวนมากและทดลองใช้มาแล้วได้อีกด้วย
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ SEMRush...
ผมจะแสดงวิธีการที่แตกต่างกันเป็นอย่างมากที่คุณสามารถใช้ในการเพิ่มผลการค้นหาของคุณ
Ahrefs: วิธีการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด
Ahrefs
เป็นเครื่องมือสำหรับคนที่จริงจังเกี่ยวกับผลการทำ SEO ของพวกเขา
พวกเขาได้สร้างเครื่องมือการทำ SEO ที่ครอบคลุมและมีตัวตรวจสอบ Backlinks
ที่ดีที่สุด
ไม่ว่าคุณจะเป็นฟรีแลนเซอร์, ตัวแทนโฆษณาหรือเจ้าของเว็บไซต์แบบเต็มเวลา...
คุณควรพิจารณาใช้งาน Ahrefs อย่างจริงจัง
ที่นี่ให้คุณดูว่าเครื่องมือทำอะไรได้บ้าง
ขั้นตอนที่ #1: เปลี่ยนจาก 10 คีย์เวิร์ดเป็นมากกว่า 1,000+ คีย์เวิร์ด
หนึ่งในคุณสมบัติของโปรแกรม Ahrefs
ที่ผมชอบคือความสามารถของเขาที่สามารถจะเปลี่ยนคีย์เวิร์ดจำนวนเล็กน้อยให้เป็นคีย์เวิร์ดนับพัน
(หรือหนึ่งร้อยของหนึ่งพัน) ของการแนะนำคีย์เวิร์ดใหม่ๆ
พวกเขาทำสิ่งนี้ด้วยการนำคีย์เวิร์ดหลักของคุณ - โฟกัสคีย์เวิร์ดของเว็บไซต์คุณ
และเปลี่ยนเป็นคำแนะนำที่ใช้ได้จริงสำหรับคีย์เวิร์ดใหม่เพื่อใช้ในเว็บไซต์ของพวกเขา
ง่ายเพียงแค่ใส่คีย์เวิร์ดของคุณเข้าไปในเครื่องมือ Keyword explorer ของพวกเขา:
นี่ก็จะให้หน้าเว็บเพจของข้อมูลและตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดเหล่านั้น
ใน sidebar คุณจะเห็นเมนู Keyword ideas:
คุณสามารถเลือกชนิดของคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการดูคำแนะนำ
โดยปกติผมจะเลือกเพียง "all keyword idea" ที่จะให้ผลลัพธ์ของคีย์เวิร์ดจำนวนมากจนน่าประหลาดใจ
จริงๆ แล้วการค้นหาในด้านบนให้ผลการค้นหามากกว่า 3,286 คีย์เวิร์ด
เพื่อกรองข้อมูลนี้และค้นหาคีย์เวิร์ดเป้าหมายเพื่อใช้งานผมแนะนำให้คุณใช้คีย์เวิร์ดที่ยากโดยระบุที่ระดับความยากเป็น
30
คุณสามารถทำได้ตามนี้:
นี่จะแสดงผลให้คุณด้วยคีย์เวิร์ดที่มีผลการแข่งขันที่ต่ำแต่ผลตอบแทนสูงเป็นประโยชน์ที่สุด
ตามที่คุณเห็นอยู่นี่ ที่ให้ผลลัพธ์มากกกว่า 517 คีย์เวิร์ดด้วยปริมาณการค้นหาที่สูง ที่มีความง่ายมากในการทำอันดับ
ทั้งหมดที่คุณได้ทำในตอนนี้คือมาพร้อมกับไอเดียสำหรับบทความเพื่อทำการเขียน
หรือวิธีการนำคีย์เวิร์ดเหล่านั้นใส่ในบทความที่คุณได้โพสต์ไปแล้ว
ขั้นตอนที่ #2 ขโมยเหมือนนักการตลาด
Ahrefs สามารถให้คุณเข้าใจพลังอย่างลึกซึ้งถึง:
คีย์เวิร์ดไหนที่คู่แข่งของคุณมีอันดับอยู่?
คีย์เวิร์ดไหนที่คุณสามารถกำหนดเป้าหมายเพื่อปรับปรุงทราฟฟิกของคุณ
ในส่วนที่สำคัญ, คุณสามารถ "ขโมย"
คีย์เวิร์ดของพวกเขาและใช้พวกมันเพื่อดึงทราฟฟิกมายังเว็บไซต์ของคุณ
โดยการใส่ชื่อโดเมนของคู่แข่งขันลงไปในเครื่องมือ site explorer คุณสามารถได้รับรายงานการแสดงผลของเว็บไซต์และตัวชี้วัดของพวกเขา:
ใน sidebar คุณสามารถเลือกที่ตำแหน่ง Top Pages...
นี่จะแสดงให้คุณดูอันดับหน้าเว็บเพจของพวกเขาทั้งหมดและคีย์เวิร์ดที่โฟกัสของพวกเขา:
แต่ตรงนี้การวิเคราะห์คีย์เวิร์ดยังไม่จบ
คุณสามารถเห็นทุกคีย์เวิร์ดในหน้าเว็บเพจที่มีอันดับอยู่อีกด้วยและจำนวนทราฟฟิกมีเท่าไหร่ที่อยู่ในหน้าเว็บเพจ:
เปิดในแบบ Old Version
เปิดในแบบ New Version
นี่สามารถช่วยคุณค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพสูงที่คุณสามารถใช้ในการสร้างบทความได้
ขั้นตอนที่ #3: ดูศักยภาพทั้งหมดของคีย์เวิร์ดหลัก
มันเป็นปกติสำหรับที่ปรากฎว่าคีย์เวิร์ดที่สร้างผลกำไรจะมีปริมาณการค้นหาที่ต่ำ
ดังนั้นคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหาระดับต่ำ มันก็ทำให้คุณรู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่ากับการเสียเวลาของคุณ
ให้คุณไปดูที่คีย์เวิร์ดเป้าหมายสำหรับหัวข้อนี้ เป็นตัวอย่างเช่น:
มันไม่มีอะไรน่าสนใจใช่ไหม?
นี่เป็นเพราะว่าเมื่อเรามองไปที่คีย์เวิร์ดที่แยกออกมานั้น เรามองไม่ค่อยเห็นว่ามันมีศักยภาพมากนัก
มันเหมือนกับการตัดสินสินว่าไข่หนึ่งฟองสามารถที่จะทำไข่เจียวได้ 4 ฟอง!
โดยปกติคีย์เวิร์ดเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของคีย์เวิร์ดอื่นๆ อยู่แล้ว
กล่าวคือเป็นคีย์เวิร์ดแบบยาว (Long Tail Keyword) เมื่อคุณได้ใช้ร่วมกัน
สามารถที่จะทำให้ได้รับทราฟฟิกเป็นจำนวนมาก
Ahrefs สามารถให้คุณเห็นศักยภาพที่เต็มที่สำหรับคีย์เวิร์ดว่าเป็น อย่างไร?
โดยการแสดงหน้าเว็บเพจที่มีอันดับสำหรับคีย์เวิร์ดนั้นๆ อยู่
โดยการแสดงว่ามีทราฟฟิกจำนวนเท่าไหร่ที่พวกเขาได้รับจริงๆ
เพียงคุณใส่คีย์เวิร์ดเข้าไปในเครื่องมือ Keyword explorer ของพวกเขา
และมันก็จะแสดงให้คุณเห็นถึงสถานะทราฟฟิกที่แท้จริงสำหรับคีย์เวิร์ดนั้น
รวมทั้งคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่มี:
ในทันที การค้นหา 300 ครั้งต่อเดือน ได้แปรเปลี่ยนเป็นการเข้าเยี่ยมชมถึง 4,000
เว็บไซต์
ก่อนที่คุณจะยอมแพ้ในการเลือกใช้คีย์เวิร์ด มันมีประโยชน์จริงๆ
ในการใช้เครื่องมือนี้เพื่อทำความเข้าใจพลังที่แท้จริงของคีย์เวิร์ดและถ้ามันคุ้มค่ากับเวลาและความพยายามของคุณ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม Ahrefs...
คุณรู้สึกว่าคุณชอบเครื่องมือ Ahrefs นี้หรือไม่?
ถ้าเป็นเช่นนั้นผมจะแสดงให้คุณดู
รีวิวการใช้โปรแกรม Ahrefs
ฉบับเต็มการใช้เครื่องมือให้ได้ประสิทธิผลและปลดปล่อยพลังความสามารถในคุณสมบัติของเครื่องมือนี้เพื่อใช้ในธุรกิจของคุณ
การวิเคราะห์คีย์เวิร์ดด้วยโปรแกรม Long Tail Pro
Long Tail Pro โฟกัสไปที่การช่วยเหลือคุณในการค้นหาการแข่งขันที่ต่ำและคีย์เวิร์ดแบบยาวๆ
ที่มีทราฟฟิกสูง
พวกมันเป็นเครื่องมือหนึ่งเดียวในรายการนี้ที่ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดเพียงอย่างเดียว...
นี่เป็นความสามารถของพวกมันที่นำเสนอคุณสมบัติแบบพิเศษที่เครื่องมืออื่นไม่สามารถทำได้
พวกมันทำการวิเคราะห์เพื่อค้นหาคีย์เวิร์ดที่สร้างผลกำไร
ความสามารถในการแข่งขันตามเป้าหมายและไอเดียคีย์เวิร์ดมากมายในการทำคอนเท้นต์
มันเป็นเครื่องมือที่มีราคาต่ำแค่เพียง $55 ถูกกว่าเครื่องมืออื่นๆ ในรายการนี้
เราไปดูภายในเครื่องมือนี้กันว่ามันมีความสามารถทำอะไรได้บ้าง...
ขั้นตอนที่ #1 ค้นหาความสามารถในการแข่งขันตามเป้าหมาย
หนึ่งในคุณสมบัติของเครื่องมือใน
Long Tail Pro
ที่ผมชอบคือพวกเขาสามารถที่จะคัดเลือกคีย์เวิร์ดที่มีความสามารถในการแข่งขันให้คุณได้ใช้เป็นเป้าหมายได้
มันขึ้นอยู่กับ:
คีย์เวิร์ดเป้าหมายของคุณ
ตัวชี้วัดของโดเมนคุณ
ตัวชี้วัดคู่แข่งขันของคุณ
มันบอกให้ผมทราบถึงความยากของคีย์เวิร์ดที่แท้จริงที่ผมควรเริ่มด้วย:
นี่หมายความว่าทุกๆ คีย์เวิร์ดภายในตะกร้านี้ ผมสามารถที่จะทำอันดับได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
ผมแค่ทำการสร้างลิงค์เพียงเล็กน้อยและทำการปรับแต่ง
on page
ด้วยความสามารถที่คุณเห็นนี้สามารถที่จะลดเวลาได้เป็นชั่วโมงในการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดของคุณ
และลดได้เป็นสัปดาห์ในช่วงทดลองใช้และการแก้ไขบทความที่ผิดพลาดของคุณ
ขั้นตอนที่ #2:
ทำการค้นหาไอเดียคีย์เวิร์ดของบทความได้เป็นจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว
คีย์เวิร์ดแบบยาวๆ
เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่ช่วยปรับแต่งโครงสร้างบทความของคุณและเต็มไปด้วยไอเดียที่หลากหลาย
ให้ดูตัวอย่างตามด้านบน ตามที่ผมได้บอกไว้ว่าผมต้องการสร้างโพสต์เกี่ยวกับดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง (Digital Marketing) แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้างที่ผมจะต้องเขียนถึง
ผมเพียงแค่ใส่คีย์เวิร์ดหลัก (ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง) ลงไปในเครื่องมือ Keyword research ของพวกเขา:
จากนั้นมันก็จะแสดงคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องเด้งกลับคืนมาเกี่ยวกับหัวข้อหลักนั้น
การรวมวิธีในขั้นตอนสุดท้ายนี้ คุณสามารถดูที่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องและปัจจัยที่กำหนดความสามารถในการแข่งขันในคีย์เวิร์ดของคุณ
เหมือนกับ 12 คีย์เวิร์ดที่แสดงนี้
การใช้ข้อมูลนี้ ผมรู้ว่าถ้าผมสร้างหัวข้อเรื่องเกี่ยวกับสิ่งนี้:
ผมสามารถทำอันดับได้ดีสำหรับในเงื่อนไขนี้
ผมสามารถที่จะได้รับทราฟฟิกในระดับที่สูงจากพวกมัน
ผมควรจะใช้คีย์เวิร์ดคำว่า "internet marketing service" อีกด้วย ตามที่เครื่องมือที่เห็นว่าคีย์เวิร์ดอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องนี่จะช่วยให้โครงสร้างบทความของผมดีขึ้นหรือว่าการเพิ่ม
LSI Keywords
คีย์เวิร์ดเหล่านี้ใช้ในการสร้างหมวดหมู่ย่อยในบทความของผม ยกตัวอย่างเช่น:
กระบวนการวิเคราะห์ทั้งหมดนี้ผมใช้เวลาภายใน 2 นาที
และผมก็ได้รับไอเดียบทความที่สามารถใช้การได้ด้วยคีย์เวิร์ดที่สร้างทราฟฟิกได้เป็นอย่างดีและแบ่งเป็นหมวดหมู่ย่อยตามแผนการ
มันเป็นเครื่องมือที่มีความสามารถไม่เลวใช่ไหม ที่คุณคิดจะใช้งาน?
ขั้นตอนที่ #3: ใช้ตัวกรองเพื่อค้นหาคีย์เวิร์ดที่สร้างผลกำไร
Long Tail Pro
ทำให้คุณทำการกลั่นกรองเพื่อช่วยคุณค้นหาคีย์เวิร์ดที่สร้างผลกำไร
หนึ่งในวิธีการที่ผมชอบใช้คือการเติมคำก่อนหรือเติมคำหลังคีย์เวิร์ดที่ทำการค้นหาของผม
เช่น:
รีวิว
ราคาถูก
ซื้อ
นี่จะช่วยเปิดเผยคีย์เวิร์ดที่มีจุดประสงค์เกี่ยวกับการค้าขายในระดับที่สูง
ถ้าคุณทำแบบฟอร์มของการขายออนไลน์ - จาก
Affiliate Marketing ไปจนถึง
Ecommerce SEO...
ชนิดของคีย์เวิร์ดเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากจริงๆ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม Long Tail Pro...
โปรแกรม Long Tail Pro เป็นเครื่องมือการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่ดีเยี่ยมสำหรับคนที่กำลังมองหาคีย์เวิร์ดแบบยาว (Long Tail Keywords) เพื่อใช้ในการสร้างผลกำไรและนำทราฟฟิกเข้ามาในเว็บไซต์ของพวกเขา
ถ้าคุณอยากจะเรียนรู้เพิ่มเติมว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับโปรแกรมนี้...
เครื่องมือการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด( intelligent keyword research
spreadsheets) ที่ผมอยากแนะนำ
ทำไมนะหรือ?
เพราะว่ามันเชื่อมต่อกับโปรแกรม Ahrefs หรือโปรแกรม SEMRush
แบบทดลองใช้งานฟรีที่ช่วยให้คุณทำการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดทั้งหมดของคุณภายในไม่กี่นาทีแทนที่จะใช้เวลาเป็นวัน
มันได้พัฒนาแบบพิเศษเพื่อพัฒนากลยุทธ์การวิเคราะห์คีย์เวิร์ดแบบเป็นการส่วนตัวด้วยการทำการวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้องแม่นยำได้ภายใน
5 นาที
มันมีการทำงานหลายอย่างที่อยู่เบื้องหลัง:
มันจะทำการค้นหาคีย์เวิร์ดที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติด้วยการแข่งขันที่ต่ำและปริมาณการค้นหาที่สูง
มันจะบอกให้คุณทราบว่าคุณควรใช้ Featured snippets ถึงมีโอกาสที่จะชนะ
มันจะทำการคาดคะเนจุดประสงค์ของคีย์เวิร์ดดังนั้นคุณสามารถที่จะโฟกัสไปที่คึย์เวิร์ดทำเงินได้
$$$
เปรียบเทียบกันระหว่าง: Ahrefs vs. SEMRush vs. Long Tail Pro vs. My
sheets
เมื่อคุณอ่านคำแนะนำทั้งหมดนี้และคุณก็ยังไม่แน่ใจในเครื่องมือวิเคราะห์คีย์เวิร์ดตัวไหนอยู่ใช่ไหม?
ไม่ต้องกังวลไป ผมมีข้อมูลเล็กน้อยที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ด้านล่างนี้เป็นตารางเปรียบเทียบปัจจัยหลักๆ ทั้งหมดของเครื่องมือเหล่านี้
และพวกมันมีความแตกต่างกันอย่างไร:
Feature
|
Ahrefs |
SEMRush
|
Long Tail Pro
|
My Free Sheets
|
Cheapest Package
|
$99 / Month |
$99.95 / Month |
$25 / Month |
free |
Keyword Database Size
|
7.4 Billion |
9.4 billion |
– |
9.4 billion |
Find Competitor Keywords?
|
Yes |
Yes |
No |
Yes |
Find Keywords You Already Rank For?
|
Yes |
Yes |
Yes |
No |
Keyword Difficulty Score
|
Yes |
Yes |
Yes |
Yes |
Advanced Traffic Metrics
|
Yes |
No |
No |
No |
Clickstream Data
|
Yes |
Yes |
No |
No |
Topic Research
|
Yes |
Yes |
No |
Yes |
Filter By Featured Snippet
|
Yes |
No |
No |
Yes |
Search Result History
|
Yes |
No |
No |
No |
Keyword Rank Tracking Integrations
|
Lots |
Lots |
None |
None |
Countries Supported
|
100+ |
100+ |
100+ |
100+ |
Organisation/Keyword Lists
|
Yes |
Yes |
Yes |
Yes |
Trial Available?
|
Yes.
$7 for 7 days.
|
Yes.
Freemium Model.
|
Yes.
7 Days Free.
|
Free!
|
แต่ถ้าคุณอยากสร้างกลยุทธ์คีย์เวิร์ดที่แข็งแกร่ง...
สรุปบทความ
ผมหวังว่าคุณจะได้ไอเดียที่ชัดเจนขึ้นว่า:
เครื่องมือวิเคราะห์คีย์เวิร์ดคืออะไร
ทำไมเครื่องมือเหล่านี้ถึงมีความสำคัญ
เครื่องมือวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่ดีที่สุดชนิดไหนที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
ถ้าคุณยังไม่แน่ใจ หรือว่าคุณยังมีคำถามอื่น...
ผมยินดีที่จะช่วยเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมให้กับคุณ
เพียงคุณคอมเม้นต์ในโพสต์นี้และผมจะกลับมาตอบคำถามให้คุณเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
คุณควรเรียนรู้บทความนี้อีกด้วย...